ถ้าหากพูดถึงอิสรภาพทางการเงิน หรือ การที่ไม่ต้องทำงานก็ได้เงินใช้จ่ายอยู่เรื่อย ๆ และเพียงพอต่อการใช้ชีวิต เป็นเหมือนความฝันของใครหลายคน บางคนก็คิดว่าถ้าทำงานเก็บเงินไปได้เยอะ ๆ ก็จะหยุดทำงานแล้วเกษียรตัวเอง แต่ก็ทำแบบนั้นต้องใช้เวลานานแค่ไหนล่ะ 30 ปี 50 ปี กว่าจะได้พักจริง ๆ ก็มีอายุที่มากแล้ว จะมีซักกี่คน ที่มีเงินจากการทำงานได้รายได้มาก ๆ แล้วคนเหล่านั้นจะมีซักกี่คนที่ร่ำรวยและมั่นคง จะดีกว่าไหมหากเราไม่ต้องทำงานอีกต่อไปโดยการที่เรานำเงินเก็บของเราทำงานแทน
แล้วการนำเงินต่อยอดเงินทำได้จริงหรือ แน่นอนว่าทำได้จริง และมีหลายทางเสียด้วย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของคุณเองว่าวิธีที่คุณเลือกเดินนั้น คุณสามารถเข้าใจในเส้นทางนั้นหรือเปล่า ซึ่งตัวอย่างของแต่ละเส้นทางนั้นมีให้เห็นอยู่มากมายทำให้คุณมีโอกาสในการคว้าอิสรภาพทางการเงินนั้นไว้ในครอบครอง มาถึงตรงนี้คงสงสัยแล้วว่าอิสรภาพทางการเงินนั้นมีได้ด้วยวิธีไหน หลัก ๆ ของการมีอิสรภาพทางการเงินนั้นแบ่งออกเป็น 4 วิธี และ แต่ละวิธีสามารถทำควบคู่กันไปได้ด้วย
อิสรภาพทางการเงินมาจากไหนได้บ้าง
1. ธุรกิจเครือข่าย หากคุณเป็นเพียงพนักงาน ลูกจ้าง ที่มีรายได้ไม่มาก แต่คุณมีความมุ่งมั่นที่จะรวย ธุรกิจเครือข่ายนี้ก็จะเป็นเส้นทางที่เหมาะกับคุณอย่างยิ่ง เพราะคุณสามารถรวยได้โดยเริ่มจากศูนย์ หรือ ไม่มีสินทรัพย์ใด ๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือการฝึกฝนตนเองให้เป็นนักขายมืออาชีพ และ มีลูกค้าจำนวนมาก เมื่อคุณทำไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ผลตอบแทนจากการมีสมาชิกที่มากจะทำให้คุณไม่ต้องทำงานในธุรกิจนี้อีกต่อไป ก็สามารถมีเงินใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ ทางเลือกนี้จึงเหมาะกับคนที่ขยัน มุ่งมั่น และ อดทน
2. ธุรกิจส่วนตัว หากคุณมีต้นทุนอยู่จำนวนหนึ่งแล้ว และ มีสิ่งที่ชอบอยู่ การทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบก็สามารถทำให้มีอิสรภาพทางการเงินได้ แต่หลักการของอิสระภาพทางการเงินของธุรกิจส่วนตัวนั้นจำเป็นที่จะต้องวางรากฐานของธุรกิจให้มั่นคงเสียก่อน เพราะฉะนั้นเราเองซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจต้องมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด รอบคอบ และ มีความรู้ที่มากพอ เพื่อให้ระบบของธุรกิจที่สร้างมามีรากฐานที่แข็งแรง มั่นคง และ พร้อมทำเงินให้เราใช้ได้ตลอด โดยที่มีบุคลากรในธุรกิจเป็นผู้ทำงาน และ แก้ไขปัญหาแทนให้ทั้งหมด เส้นทางนี้จึงเหมาะกับคนที่มีต้นทุนและมีความชื่นชอบในบางอย่างเพื่อนำไปทำเป็นธุรกิจ
3. หุ้น การเล่นหุ้นนั้นจะต่างจากสองหัวข้อแรกตรงที่ แม้จะทำงานอย่างปกติอยู่ก็สามารถเล่นหุ้นควบคู่ไปด้วยได้ การเล่นหุ้นคือการลงทุนกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อเราซื้อหุ้นมาก ส่วนแบ่งในเงินปันผลก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งเราสามารถวิเคราะห์ ช่างสังเกตุ และ มีต้นทุนอยู่แล้ว การเล่นหุ้นก็เป็นวิธีที่เหมาะมากที่จะเป็นกุญแจเปิดประตูไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้ดีเช่นกัน
4. การสะสมกองทุน เช่นเดียวกับการเล่นหุ้น การสะสมกองทุนเมื่อมีปริมาณที่มากขึ้น เงินปันผลก็จะมากขึ้นตามไปด้วย แต่การสะสมกองทุนนั้นเราไม่ได้ไปลงทุนกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอง แต่เราใช้สื่อกลางอย่างธนาคารเป็นผู้จัดกับเงินทุนของเรามาลงทุนในบริษัทที่คาดว่าจะทำกำไรได้ แน่นอนว่าทั้งหุ้น และ การสะสมกองทุนนั้นสามารถทำควบคู่กันไปได้ แต่ควรเป็นการเล่นที่ใช้เงินเก็บ หรือ เงินที่เราไม่เดือดร้อน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการศูนย์เสียทรัพย์สิน
จาก 4 วิธีข้างต้นจะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้แล้วว่าเส้นทางไหนที่เราอยากจะลงทุนกับมัน แน่นอนว่าทั้ง 4 วิธีสามารถทำควบคู่กันไปได้ เช่น หากคุณกำลังทำงานบริษัทอยู่ คุณก็สามารถทำธุรกิจส่วนตัว และ เล่นหุ้นกับสะสมกองทุน ควบคู่กันไปได้ หลาย ๆ คนที่ยังไม่เข้าใจอยู่ว่าการเล่นหุ้น กับ การสะสมกองทุน จะทำให้เรารวยจนมีอิสรภาพทางการเงินได้จริงหรือ เราจะมาแนะนำการเล่นหุ้น และ การสะสมกองทุนกัน
พื้นฐานของการสะสมกองทุน
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกองทุนคุณควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเสียก่อนอย่างน้อย 3 – 6 เท่าของเงินเดือน เมื่อมีเงินทุนแล้วก็ทำงานเปิดบัญชีกองทุนกับธนาคารที่เราสนใจ หลังจากนั้นเราต้องตั้งเป้าหมายการลงทุนว่าเราจะต้องมีเงินปันผลต่อปี หรือ ต่อเดือนเท่าไรถึงจะเพียงพอต่อการไม่ต้องทำงานแล้วมีอิสรภาพทางการเงิน แน่นอนว่าต้องอาศัยการศึกษามาเป็นอย่างดี เราจึงจะมาแนะนำกองทุนที่น่าสนใจให้ 3 ประเภทดังนี้
1. กองทุนหุ้น ขาดไม่ได้เลยกับกองทุนที่เป็นที่นิยมนี้ เพราะทำกำไรให้เราได้อย่างมั่นคง ซึ่งจะแบ่งการลงทุนไป 3 แบบคือ ABSM – กองทุนที่เน้นลงทุนกับหุ้นขนาดเล็ก ถึง กลาง ที่มีแนวโน้มว่าจะเจริญเติบโตขึ้นในอนาคต ซึ่งผลตอบแทนจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ราคาหุ้นไม่ได้สูงมาก จึงเหมาะที่จะถือหุ้นในระยะยาว แบบที่สองคือ BTP – กองทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองอยู่ในขณะนี้ เพราะมีวิธีเลือกหุ้นจำนวนไม่มาก แต่เป็นหุ้นตัวใหญ่ และ เป็นหุ้นที่มีฐานรากมั่นคง สร้างผลตอบแทนได้มาก แบบสุดท้ายคือ T-Lowbeta หรือกองทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาต ที่สามารถทำกำไรได้ดีสม่ำเสมอ และ มีความผันผวนต่ำมาก เพราะเป็นหุ้นที่ผูกขาดตลาดอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดีแม้จะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลง
2. กองทุนหุ้นปันผล เป็นกองทุนที่เน้นเจาะจงประเภทของธุรกิจที่คาดว่าจะเจริญเติบโตและทำกำไรมากโดยมีกองทุนที่แนะนำดังนี้
TEF DIV – กองทุนที่เน้นซื้อขายทำกำไร มีความผันผวนอยู่บ้าง แต่เน้นทำกำไรมาก , B-BASIC – เป็นกองทุนที่ลงทุนกับปัจจัย 4 ของชีวิต โดยเลือกหุ้นที่ราคาไม่แพง แต่รากฐานมั่นคง , KTSE – กองทุนที่เน้นค่าตอบแทนที่สูง แต่ความเสี่ยงก็มีมากเช่นกัน , SCBSE – เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และ มีความเสี่ยงไม่สูงมาก
3. Passive Fund เป็นกองทุนทำกำไรระยะยาวที่ทำกำไรได้มาก และ มีค่าธรรมเนียมที่ถูก โดยมีกองทุนที่แนะนำดังนี้ KSET50 – เป็นกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมต่ำมาก, TMBSET50 – เป็นกองทุนที่ใช้เงินทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท, SCBSET50 – เป็นกองทุนที่มีผลตอบแทนดี และ ค่าธรรมเนียมถูก, 1-AM SET50 – เป็นกองทุนที่มีการเลือกหุ้นจากตลาด SET50 มีผลตอบแทนมาก และ ค่าธรรมเนียมถูกมาก
กองทุนทั้งสามอย่างนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในกองทุนที่น่าสนใจทั้งหมดเท่านั้น หากเรามีความสามารถในการวิเคราะห์ตลาดได้ดีกว่านี้ ขอแนะนำให้ทำการลงทุนกับหุ้นด้วยตนเองจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ซึ่งเราสามารถมีอิสรภาพทางการเงินจากการเล่นหุ้นได้เช่นเดียวกัน แต่เราต้องมีคุณสมบัติที่พร้อม และ มีการวางแผนที่ดีเสียก่อน
การมีอิสรภาพทางการเงินจากการเล่นหุ้น
จริง ๆ แล้วแผนในการเล่นหุ้นนั้นไม่ยากเลยเพียงแค่เราต้องฝึกฝน วิเคราะห์ และ ช่างสังเกตุให้มาก ๆ เพื่อให้มีคุณสมบัติที่พร้อมก่อนจะคว้าอิสรภาพทางการเงินให้เป็นเหมือนเจ้าของกิจการยักษ์ใหญ่ของโลก โดยรูปแบบการลงทุนในหุ้นมีดังนี้
1. เงื่อนไขสำหรับการเล่นหุ้น อย่างแรกเลยต้องรู้จุดผันผวนของหุ้นว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงเมื่อไร อย่างที่สองต้องมีเงินทุนที่ไม่เดือดร้อนต่อการใช้ชีวิต อย่างที่สามต้องอาศัยโชคชะตาไม่ให้เล่นตลกจนทำให้หุ้นผิดจากที่เราคาด สุดท้ายคือต้องรู้จักจุดที่ควรซื้อและขาย
2. ซื้อหุ้นบริษัทใหญ่ และ ซื้อจำนวนมาก ๆ หากต้องการที่จะได้อิสรภาพทางการเงินจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหุ้นที่มั่นคง และ ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้หุ้นจากบริษัทใหญ่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีเงินทุนที่สูงมากตามไปด้วย
แล้วเมื่อเราทำกำไรได้ทั้งจากตลาดหุ้นทั่วไป แล้วสามารถลงทุนไปกับหุ้นบริษัทใหญ่ได้แล้วก็จะถึงเวลาที่เราจะมีอิสรภาพทางการเงินนั่ง ๆ นอน ๆ รอเงินปันผลรายไตรมาสมาใช้จ่ายได้อย่างสบายใจไม่ต้องทำงานอีกต่อไป
จากเส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงินทั้งหมดนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเครือข่าย ธุรกิจส่วนตัว การสะสมกองทุน หรือ การเล่นหุ้นก็ตามล้วนต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ความมุมานะ และ ความอดทนทั้งสิ้น หากเราเลือกที่จะรวย ก็ต้องทำตัวให้ฉลาด ไม่หยุดอยู่กับที่ แล้วเมื่อเราไปถึงจุดสูงสุดแล้ว เราถึงจะได้เข้าใจกับคำว่า อิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก
https://masii.co.th/thai